การเลือกซื้อหัวไม้ไฮบริด สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการระยะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

การเลือกซื้อหัวไม้ไฮบริด หัวไม้ประเภทนี้เพิ่งได้รับความนิยมในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความสามารถของนักกอล์ฟที่ไม่สามารถตีเหล็กยาวได้ระยะและทิศทางตามที่ต้องการ เหล็ก 3 เหล็ก 4 เหล็ก 5 นั้นต้องการความเร็วไม้สูง ถึงจะทำให้ตีลูกลอยได้ ซึ่งในการซ้อมจะเสียเวลามาก กว่าจะได้ผลลัพท์ได้ตามความต้องการ หลายๆ บริษัท จึงหันมาพัฒนาหัวไม้เหล่านี้ให้ตีง่ายและได้ระยะดีกว่าเหล็กยาว

ความแตกต่างหัวไม้ไฮบริดตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

ด้วยปัจจุบันการออกแบบไฮบริด ต่างจากเมื่อสิบปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดคือมีขนาดหัวไม้ที่ใหญ่ขึ้น (จำนวน CC) และค่า CG ถูกจัดวางได้ดี จึงทำให้ตีลอยได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก ส่วนวัสดุนั้นทางฝั่งอเมริกาจะนิยมใช้ Steel ข้อดีคือเป็นวัสดุที่มีราคาถูก มีความคงทนดีแต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถออกแบบหัวให้มีขนาดใหญ่ได้เนื่องจากมีน้ำหนักมาก ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่นนั้นบางบริษัทผู้ผลิตจะใช้วัสดุพรีเมียมกว่าคือใช้ไทเทเนียมที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงหรือบางยี่ห้อใช้ Maraging steel หน้าจึงเด้งกว่าสามารถออกแบบให้มีขนาดใหญ่น้ำหนักเบาโดยเมื่อเทียบราคาบางยี่ห้อมีราคามากกว่าทางอเมริกา 2-3 เท่า ด้วยราคาที่สูงบางรุ่นก็ใส่ก้านพรีเมียมมาให้ด้วย

ควรใช้ Utility ในระยะเท่าไหร่ ท่านต้องสังเกตตัวเองว่าระยะซ็อตสองที่จะขึ้นกรีนโดยปกติขึ้นกันที่ระยะเท่าไหร่หรือการเล่นในพาร์ 3 ยาว ท่านมีเหล็กหรือหัวไม้ตัวไหนที่ตึถึงบ้าง โดยค่าเฉลี่ยของนักกอล์ฟส่วนใหญ่ เหล็ก 7 จะตีกันอยู่ที่ 150 หลาโดยประมาณ ถ้าท่านต้องการตีในระยะ 180 หลา โดยปกติก็จะใช้เหล็ก 5 กัน คราวนี้ก็มาดูว่าท่านตีแล้วลูกไปในทิศทางและระยะที่ต้องการไหม ส่วนมากเมื่อผมสัมภาษณ์นักกอล์ฟว่าท่านตีเหล็ก 5 ได้ไหม ส่วนใหญ่จะบอกว่าตีได้ ความหมายของตีได้ของผมคือต้องตีลูกลอย ตีไปตามทิศทางและได้ระยะตามที่ต้องการ แต่ถ้าตีไปไหนไม่รู้มันก็เป็นแค่ได้ตี

Utility ที่มีหัวขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักกอล์ฟฝีมือดี มีความเร็วหัวไม้สูงจะช่วยในการแต่งซ็อตได้เป็นอย่างดี

 

Utility หัวที่มีขนาดกลาง เหมาะสำหรับนักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ ยังสามารถแต่งซ็อตได้ การออกแบบมีความยาวก้านมากกว่าหัวขนาดเล็กอยู่ประมาณครึ่งนิ้ว จึงเป็นการช่วยให้นักกอล์ฟตีได้ระยะมากขึ้น

 

หัวขนาดใหญ่เหมาะสำหรับนักกอล์ฟมือปานกลางจนถึงมือใหม่ที่ต้องการระยะที่ดีกว่าการตีเหล็ก หัวไม้ Utility จำพวกนี้จะใส่ก้านที่มีน้ำหนักเบา และสิ่งที่ช่วยให้ตีง่ายกว่า Utility ประเภทอื่นคือ Offset

การเลือกซื้อหัวไม้ไฮบริดที่ควรพิจารณา

  1. Offset คือส่วนเว้าของคอไม้เวลาจรดลูก มือจะนำหน้าไม้เยอะกว่าปกติ อ๊อฟเซ็ทนั้นเป็นตัวช่วยชั้นดีของนักกอล์ฟมือใหม่ถึงมือปานกลางที่มีความเร็วหัวไม้ต่ำ จะช่วยให้ตีลูกลอยได้ง่ายลูกมีแบ็คสปินเยอะขึ้น แก้ปัญหาลูกสไลด์ เข้าปะทะลูกได้ดีกว่าหัวปกติ แต่หัวไม้ที่มีอ๊อฟเซ็ทจะไม่เหมาะกับนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้สูง เพราะจะทำให้ลูกมีแบ็คสปินเยอะไป ตีเข้าซ้ายได้ง่ายเพราะการพลิกท่อนแขนที่เร็วกว่านักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ต่ำ
  2. ความแตกต่างของหัวไม้ไฮบริดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของนักกอล์ฟแต่ละประเภทด้วย ถ้าเป็นนักกอล์ฟมือใหม่ถึงมือปานกลางที่มีความเร็วหัวไม้ไม่สูงมากก็ต้องเลือกหัวที่ใหญ่และก้านก็ต้องเบาไว้ก่อน ก้านที่หนักและแข็งจะทำให้เทมโปเปลี่ยนหรือที่ชอบพูดกันติดปากคือวงเพี้ยน
  3. ถ้าเป็นนักกอล์ฟฝีมือดีและมีความเร็วหัวไม้ที่สูงนั้น มีแนวโน้มที่จะชอบ Utility/Hybrids ที่มีหัวขนาดเล็กมากกว่า เพราะว่าสามารถแต่งซ็อตได้ง่ายกว่าหัวใหญ่ ส่วนเรื่องก้านนั้นขึ้นอยู่ความชอบและความสามารถส่วนตัว บางท่านต้องการระยะ ก็ใช้ก้านที่เบา บางท่านต้องการทิศทางก็ต้องใช้ก้านที่หนักและแข็งกว่า

แล้วควรใช้องศาเท่าไหร่ดี?

Utility loft                               Club Replaced

14° – 16°                                  3 wood or 1 iron
17° – 19°                                  5 wood or 2 iron
20° – 22°                                  7 wood or 3 iron
23° – 25°                                  9 wood or 4 iron
26° – 28°                                  5 iron

 

ส่วนค่าเฉลี่ยของ Utility ในแต่ละองศาตามงานทดสอบหัวไม้ของประเทศญี่ปุ่น ถ้านักกอล์ฟที่ตีเหล็ก 7 ในระยะเฉลี่ยที่ 150 หลา จะได้ระยะตามองศาดังนี้

U4 19 องศา จะได้ระยะประมาณ 190-200 หลา
U5 22 องศา จะได้ระยะประมาณ 180-190 หลา
U6 25 องศา จะได้ระยะประมาณ 170-180 หลา

ส่วนการเลือกซื้อนั้นให้ดูที่องศาของหัวไม้เป็นหลัก เพราะว่าในแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน Utility/Hybrids ถูกออกแบบมาให้เหมือนเหล็กในไลน์ยากๆ หรือในหญ้ายาวปานกลาง จะตีได้ระยะกว่าเหล็ก ถึงแม้ว่าจะตีหลังลูกเพียงเล็กน้อยระยะทางที่ได้ก็ยังมากกว่าตีด้วยเหล็กหรือแม้แต่การเล่นลูกข้างกรีนก็สามารถใช้ได้เหมือนกันโดยลูกจะพุ่งเร็วจึงต้องกำหนดน้ำหนักให้ดี

มุมเหินของลูก Utility/Hybrids Vs Fairway wood นั้นต่างกัน Hybrids นั้นจะให้มุมเหินของลูกสูงกว่า Fairway wood จึงทำให้ตกแล้วไม่ค่อยวิ่ง ระยะรวมของการตี Utility/Hybrids นั้นก็ต่างกัน Fairway wood จะตีได้ไกลกว่าเพราะก้านที่ยาวกว่าความยากง่ายในการตี องศาที่น้อยนั้นมันยากอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว

การ Set up ก็ให้คิดว่าเวลาที่ท่านยืนตีเหล็ก 7 ในท่าไหน ก็ตีท่านั้นอย่าไปยืนเหมือนกับ Fairway wood อย่างเด็ดขาด เดี่ยวจะตีโดนไม่เต็มจากประสบการณ์ของผมนั้น Hybrids loft 14-18 องศานั้นควรหลีกเลี่ยงเข้าไว้เพราะตียากมากมีอยู่ครั้งนึงผมก็ซื้อ Adams Pro Idea 18 Aldila VS Proto 80S เพราะว่าที่ใช้อยู่แล้วคือ Adams Pro Idea 20, 23 Aldila VS Proto 80S ทุกอย่างเหมือนกันหมดยกเว้น loft และความยาวก้าน แค่ 2 องศามันต่างกันราวฟ้ากับดิน ตีไม่ได้เลย จึงเปลี่ยนไปใช้ Fw5 18 องศา ชีวิตดีขึ้นกว่าเยอะ หัวไม้ไฮบริดที่ตีง่ายๆ คลิ๊กดูตรงนี้ได้เลยครับ

Kasemsuk Jarungtreeratana (โปรโจ้ครับ)

Golf Instructor, Professional Golf Association of Thailand

Reviewer

Add Friend