ในตลาดปัจจุบันมีการแบ่งไม้กอล์ฟเป็นสองตลาดคือ US Spec. กับ Japan Spec. ซึ่งมีความแตกต่างอยู่ที่น้ำหนักก้านและน้ำหนักรวม ซึ่งของ US Spec. จะมีมากกว่า ซึ่งเป็นข้อด้อยของไม้กอล์ฟแบรนด์อเมริกาทั้งหลาย จึงออกไม้ที่เป็น Asian Spec. มาแบ่งส่วนครองตลาด ส่วนข้อได้เปรียบคือก้านมีสลีฟที่ช่วยให้ปรับเปลี่ยนองศา ไลน์แองเกิ้ล หน้าไม้ปิด-เปิดและสลับก้านให้ง่ายขึ้น แต่ถึงอย่างไรการพยายามปรับให้ไม้กอล์ฟมีน้ำหนักรวมเบาลง ก็ยังหนักกว่าหัวไม้ที่เป็น Japan Spec. อยู่ดี เพราะน้ำหนักหัวของหัวไม้หนักกว่าและเป็นหัวที่ถูกกฎ ก้านสั้นกว่า ข้อได้เปรียบของทาง Japan Spec. มีหัวไม้ที่มีน้ำหนักเบา มีทั้งแบบหน้าเด้งและหัวที่ถูกกฎ หัวถูกกฎ ในปี 1999 ความเด้งของหน้าไม้ถูกจำกัดไม่เกิน COR 0.83 (Coefficient of Restitution) ส่วนในปี 2003 ทาง USGA ได้เปลี่ยนวิธีการวัดในรูปแบบใหม่เรียกว่า CT (Characteristic Time) ค่าที่ถูกกฎจะไม่เกิน CT 257 หรือเท่ากับ COR 0.83 ความแข็งของก้าน หลายๆ ผู้ผลิตก้านต่างมีสเปกความแข็งของตนเอง ความแข็งของก้านที่เป็น Flex R อาจไม่เท่ากับ Flex R ของอีกบริษัทอื่น แต่ก็มีวิธีการเช็คความแข็งว่าอยู่ในเกณฑ์ไหน โดยใช้ค่าวัดที่เป็นตัวเลขคือ CPM (Cycles Per Minute) หน่วยวัดที่เป็นค่า CPM เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความแข็งของก้านในแต่ละ Flex ข้อมูลวงในของผู้ผลิตก้านโมรายใหญ่ในญี่ปุ่น หรือ After market shaft ยอมรับว่าผลิตก้านสเปก Flex S มีความแข็งเท่ากับก้านสเปก Flex R เพราะถ้าผลิตตามสเปกจริงๆ ก็คงขายกันไม่ได้ นั่นเป็นเพราะอีโก้ของผู้บริโภคในญี่ปุ่นเอง เพราะเมื่อตี Flex S มันดูแข็งแรงและเท่ห์ ความแข็งสเปกก้านโมที่เป็น Flex S จริงๆ จะอยู่ประมาณ CPM 260 แต่ผลิตกันจริงที่ผมเคยเช็คหลายๆ แบรนด์ก็ประมาณ CPM 245-250 ความแข็งที่เปลี่ยนทุก 10 CPM เท่ากับ 1 Flex ความยาวก้าน ทางญี่ปุ่นจะวัดความยาวก้านเริ่มจาก Sweet spot หรือกึ่งกลางหน้าไม้ ส่วนทางอเมริกาจะวัดจากท้องไม้หรือ Sole ความยาวของทั้งสองจึงต่างกัน แต่เมื่อนำมาวัดจากร้านคลับฟิตติ้ง วัดจากท้องไม้ทางฝั่งอเมริกาส่วนใหญ่จะมีความยาว 45-45.75 นิ้ว ส่วนทางญี่ปุ่นจะมีความยาวที่ 46-46.75 นิ้ว ถ้าท่านไม่ชอบปรับเปลี่ยนก้านข้อมูลเหล่านี้ไม่ต้องไปสนใจ ความแข็งของก้านที่มี CPM เท่ากัน เช่น หัวไม้ A มี CPM240 ที่ความยาว 45 นิ้ว และหัวไม้ B มี CPM240 ที่ความยาว 46 นิ้ว แต่ความแข็งที่ได้จากความรู้สึกไม่เท่ากัน ความยาวที่ 46 นิ้วจะรู้สึกว่าก้านอ่อนกว่า องศาของหัวไม้ หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่าองศาจริงๆ ที่ท่านใช้อยู่นั้นไม่เป็นจริงตามที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ เช่น Loft 9.5 เมื่อนำมาเช็คองศากับเครื่องวัดองศาปรากฏว่าเป็น Loft 10.5 แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ตามตำราคลับฟิตติ้งของ Tom Wishon องศาที่เหมาะสมที่จะตีระยะไกลที่สุดสำหรับความเร็วหัวไม้ 80 mph จะเป็น Lolf 15 ความเร็วหัวไม้ 90 mph จะเป็น Lolf 12 ความเร็วหัวไม้ 100 mph จะเป็น Lolf 11 และความเร็วหัวไม้ 110 mph จะเป็น Lolf 9 เพราะถ้าผลิตมาตรงตามสเปกจริงๆ สินค้ามันจะตียากและยอดขายไม่ถึงเป้าแน่นอน องศาที่สูงจึงเหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ไม่สูงมาก จะทำให้ลูกลอยได้ง่าย ไซด์สปินน้อย จึงเป็นการลดลูกสไลด์ไปในตัว นักกอล์ฟส่วนใหญ่ร้อยละ 80%-90% จะตีลูกสไลด์กัน ผู้ผลิตไม้กอล์ฟจึงมีไม้กอล์ฟที่มีหน้าปิดขายเป็นส่วนใหญ่ในตลาด ถ้าท่านตีลูกแล้วมีอาการสไลด์ ถ้าท่านปรับเปลี่ยนหัวไม้ที่เหมาะสมช่วยให้หน้าไม้ปิดได้เร็วขึ้น ตีได้ตรงมากขึ้น ระยะท่านจะเพิ่มจากเดิมอีก 10-15 หลา ด้วยความเร็วหัวไม้ที่เท่าเดิม Gear Effect คือจุดที่หน้าไม้กระทบลูก ดังภาพด้านล่างซึ่งถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านสีเขียวจะทำให้ท่านตีได้ไกลลูกตกแล้ววิ่งมาก ส่วนด้านขวาจะเป็นปัญหาของนักกอล์ฟส่วนใหญ่ที่ทำให้ตีไม่ได้ระยะจึงทำให้เกิดลูกสไลด์ การจรดลูกแนะนำให้ตำแหน่งลูกอยู่ที่เกือบกึ่งกลางของฝั่งสีเขียว ซึ่งจะลดอาการสไลด์ลงได้บ้าง แต่ในรายที่นักกอล์ฟมีความเร็วหัวไม้สูง ถ้าพลาดโดนบริเวณปลายหน้าไม้ที่เคยเจอมาในนักกอล์ฟที่เป็นทัวร์โปร ปรากฏว่าก้านแตกทันที สิ่งที่จะทำให้ท่านตีได้ไกลและทิศทางที่แน่นอนก็คือการซ้อมเท่านั้น การเรียนกับผู้ฝึกสอนจะให้คำแนะนำท่านได้เป็นอย่างดี การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ก่อนเปลี่ยนหัวไม้ 1 ท่านต้องรู้ว่าก้านที่ท่านใช้นั้นน้ำหนักเท่าไหร่ Flex ของก้าน น้ำหนักรวม รุ่นหัวไม้ 1 ที่ท่านใช้ ความยาวแล้วลองสรุปอาการว่าทิศทางที่ท่านตีส่วนใหญ่ไปในทิศทางไหน ลูกลอย หรือพุ่งต่ำ มีอาการหมดแรงในหลุมท้ายๆ ไหม ข้อมูลด้านล่างที่จะแสดงต่อไปนี้คือสเปกของหัวไม้ 1 ที่ผมทำการเช็คสเปก จะเห็นได้ว่า Flex R เหมือนกัน แต่เมื่อต่างแบรนด์กัน ความแข็งก็ต่างกัน
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องของระยะที่เพิ่มขึ้นของไดร์ฟเวอร์ *ถ้าความยาวก้านเพิ่มขึ้น 1 นิ้ว ทำให้ได้ความเร็วหัวไม้เพิ่ม 4 mph **ความเร็วหัวไม้ที่เพิ่มขึ้นทุก 1 mph จะทำให้ได้ระยะเพิ่มขึ้น 2.8 หลา (แครี่) ***น้ำหนักรวมไดร์ฟเวอร์ลดลง 20-25 กรัม ความเร็วหัวไม้จะเพิ่มขึ้น 2-3 mph
Kasemsuk Jarungtreeratana
Golf Instructor, Professional Golf Association of Thailand Reviewer